เครื่องรางของขลังมีมาแต่โบราณ
มีการจัดสร้างเครื่องรางของขลังขึ้นทุกยุคทุกสมัยจนกระทั่งถึงปัจจุบัน มีทุกชาติทุกภาษา เช่น ยุโรป อเมริกาใต้ อัฟริกัน อิยิปต์ เปอร์เซีย อาหรับ อินเดีย ทิเบต จีน มลายู ไทย พม่า ชวา มอญ ลาว เขมร ญี่ปุ่น เป็นต้น
แม้ในหลักพุทธศาสนาก็ยอมรับว่ามีจริง จะสังเกตุดูจากสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และพุทธสถานเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยนับพันปี เช่น กรุพระเครื่อง จะมีการสลักแผ่นศิลาจารึกบอกประวัติการสร้าง มวลสารและคณาจารย์ผู้สร้าง เป็นต้น
โดยมีพระคณาจารย์ผู้มีสมาธิแก่กล้าเป็นผู้ปลุกเสกหรืออธิษฐานจิตเพื่อบรรจุคุณวิชาเข้าไป เป็นผลทำให้เครืองรางของขลังมีอิทธิฤทธิ์ขึ้นตามความประสงค์ของผู้อธิษฐานจิตนั้นๆ ว่าจะให้มีอิทธิคุณหรือคุณวิเศษหนักไปทางใด เช่น แคล้วคลาด เมตตา โชคลาภ
กล่าวในแง่วิทยาศาสตร์ เปรียบเสมือนการประจุและเก็บพลังงานจากแหล่งพลังงานหนึ่งไปยังสสาร (วัตถุ) อีกสิ่งหนึ่ง เช่นเดียวกันกับ การบรรจุกระแสไฟฟ้าลงในแบตเตอรี่
การบรรจุเวทมนตร์ลงในวัตถุมงคล หรือเครื่องรางยังประกอบไปด้วยการบวงสรวงครูบาอาจารย์เจ้าของวิชา รวมทั้งเทพยดาอารักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นการเพิ่มอิทธิฤทธิ์ให้เป็นไปตามประสงค์
9:37 AM | |
This entry was posted on 9:37 AM You can follow any responses to this entry through the RSS 2.0 feed. You can leave a response, or trackback from your own site.
0 comments:
Post a Comment